ปัจจุบันมีการประชาสัมพันธ์โดยใช้กลยุทธ์ในทุกๆด้านและทุกๆเครื่องมือในการสื่อสาร เพื่อโน้มน้าวและชักนำให้เกิดการคล้อยตามและยอมรับในความคิดเห็น วิธีการ และการตัดสินใจของตนหรือของกลุ่มของตน เราจึงได้ยินคำว่า “กาลามสูตร” และ “เกสปุตตะสูตร” เพิ่มมากขึ้น โดยผู้พูดที่คิดว่าตนเองเป็นผู้รู้ทั้งหลายต่างกล่าวอ้างว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ตรัสแก่ชาวนิคมเกสปุตตะ แคว้นกาลมะ ห้ามมิให้เชื่อโดยอาการ ๑๐ อย่าง และคิดว่าผู้ที่อยู่ในความไม่หลงงมงายควรปฏิบัติตาม กล่าวคือ
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินว่าอย่างนี้
อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
อย่าได้เชื่อถือโดยเดาเอาเอง
อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
อย่าได้ยึดถือโดยความตรึกตามอาการ
อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฏฐิของตน
อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรเชื่อได้
อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้ เป็นครูของเรา